ติดต่อผ่าน Line

Add Friend

#102207

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การใช้งาน Eloop E14 แบบละเอียด

การใช้งาน Eloop E14 แบบละเอียด


      การใช้งานแบตสำรอง Power bank eloop E14 ความจุ 20,000 mAh อย่างถูกต้องนอกจากจะช่วยยึดอายุให้ Power bank ไปให้สามารถใช้ได้นานๆ แล้วนั้น ยังช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งในขณะนี้ Eloop E14 นับเป็น Power bank ขายดีในอันดับต้นๆของ Eloop เลยทีเดียว เพราะในปัจจุบันคนต้องการแหล่งพลังงานค่อนข้างสูง เพื่อให้เพียงพอกับ lifestyle การใช้งาน Line , Facebook , instragram ทั้งวัน ย่อมทำให้แบตหมดอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน  วันนี้เรามาลองศึกษา วิธีการใช้งาน Eloop E14 พร้อมทั้งปัญหาที่ผู้ใช้งาน eloop E14 มักพบกันบ่อยๆ 

  ภายใน กล่องของ Eloop E14 อุปกรณ์พื้นฐานที่ติดมาจากโรงงานดังนี้

1. ตัว Power bank Eloop E14 1 ตัว
2. สายชาร์จของ MicroUSB 1 ตัว
3. ซองใส่ Eloop E14 1 ซอง
4. กระดาษคู่มือการใช้งาน 1 แผ่น 

 สเปก ของ Power bank  Eloop E14  มีดังนี้

- Model                                 : eloop  E14
- Capacity ความจุ              : 20,000mAh
- ชนิดของแบต                     : Lithium-ion Polymer
- Input กระแสไฟเข้า         : DC 5.0V- 1000mA
- Output1 กระแสไฟออก   : DC 5.0V-1000mA 
- Output 2 กระแสไฟออก : DC 5.0V-2100mA (Max)
- Dimension ขนาด           : 160x101x12.7 mm
- Weight  น้ำหนัก               : 404 g

มาเริ่มวิธีการใช้งาน Eloop E14 กันเลย 


1. เริ่มแรกหลังจากแกะกล่องออกมาแล้ว  จะพบอุปกรณ์พื้นฐานดังนี้


2. ปุ่ม ช่องชาร์จต่างๆ  มีหน้าที่บอกสถานะและการใช้งานดังนี้



- ช่องชาร์จ Output หรือ ช่องจ่ายไฟ USB มีถึง 2 ช่อง  คือช่อง ไฟ 1A  และ ช่องไฟ 2.1 A  โดยการใช้งานช่องไหนนั้น  ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ท่านต้องการชาร์จก่อน เช่น ถ้าท่านชาร์จ iPhone หรือ โทรศัพท์ที่หน้าจอไม่ใหญ่มาก ให้เลือกช่อง 1 A  แต่หากท่านชาร์จ อุปกรณ์เช่น Tablet หรือ iPad หรือ อุปกรณ์สื่อสารที่มีหน้าจอ เดิน 4 นิ้วขึ้นไป ควรเลือกช่อง 2.1 A   (หรือตรวจสอบจากคู่มือ หรือ หัวชาร์จของ อุปกรณ์ที่ท่านใช้งานก็ได้เช่นกัน)  อนึ่ง หากเลือกใช้งานช่องชาร์ต 2.1 A เลยก็สามารถทำได้ เนื่องจากอุปกรณ์แต่ละชนิด มี limit ในการรับไฟอยู่แล้ว โดยที่ไม่ทำให้เครื่องเกิดการชำรุดหรือเสียหาย 

- ไฟ LED แสดงปริมาณไฟคงเหลือ  จะมี 4 จุด คือ จะแสดงผลที่  25%....50%...70%...100% 

- ปุ่ม Power จะเป็นปุ่ม เช็คระดับไฟคงเหลือในเครือง และ เป็นปุ่ม ON เพื่อเริ่มการใช้งาน โดย Eloop ทุกรุ่นจะมีระบบ Standby โดยสามารถเสียบชาร์จได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องกด ปุ่ม on อีกครั้ง ภายใน 30 วินาที  แต่หากเกินจากช่วงเวลา Standby ท่านก็สามารถกดปุ่ม ON เพื่อเปิดการใช้งานใหม่ได้เช่นกัน 

- ช่อง Input หรือ ช่องสำหรับชาร์จไฟเข้าตัว Eloop E14  เพื่อทำการเก็บไฟ  โดยท่านสามารถใช้หัวชาร์จที่ติดมากับ อุปกรณ์โทรศัพท์ของท่านเพื่อทำการชาร์จได้เลย จะช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับหัวชาร์ตที่ท่านใช้งาน   

** หากชาร์จไฟเข้า Eloop E14 อาจจะมีความร้อนสูงเนื่องจาก Power bank มีความจุสูงจึงใช้แรงดันมากทำให้เกิดความร้อนขึ้นตามมาด้วยค่ะ ถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ  อันนี้คนกังวลกันเยอะ 

3. การเลือกใช้สายชาร์จ สำหรับ Eloop E14   ในตัว Eloop E14 เป็นสายชาร์จแบบหัว Micro USB แถมมาให้ด้วย และสายดังกล่าว จะใช้ชาร์จ Port ของอุปกรณ์มือถือ  ที่เป็น Micro USB ได้เลย  เช่น Samsung , SONY , Zenphone , HTC  ได้   แต่หากต้องการชาร์จอุปกรณ์รุ่นอื่นที่หัวชาร์จไม่เหมือนกัน  ท่านก็สามารถใช้สายชาร์จของอุปกรณ์เหล่านั้นได้เลย เนื่องจาก หัวชาร์จของทุกรุ่นจะเป็นหัว USB เหมือนกันหมด 


4. ทำการเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือของท่านได้เลย   เมื่ออุปกรณ์มือถือเต็ม Eloop E14 จะทำการตัดไฟ (ปิดตัวเอง) ให้โดยอัตโนมัติ



5. การชาร์จไฟเข้าให้ eloop E14 ให้สังเกตุที่ไฟ LED แสดงสถานะ ไฟจะค่อยๆกระพริบ แล้วเพิ่มขึ้นทีละดวง หากไฟทั้ง 4 ดวงติดค้าง แปลว่า ได้ชาร์จไฟให้ eloop E14  เต็มเป็นที่เรียบร้อย


และนี่ก็คือ  5 ขั้นตอนง่ายๆกับการใช้งาน eloop E14 หากท่านมีคำถามเพิ่มเติม หรือสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ www.caseintrend.com และคอยติดตาม update ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ Powerbank ได้เช่นกัน 



วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รีวิว Eloop E12 VS. Eloop E10 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบ Eloop E10 และ Eloop E12 แบบละเอียด


  Eloop เป็น Power bank นั้นมียอดขายสูงมากๆในประเทศไทย ณ.ตอนนี้   มีผู้สอบถามเข้ามาบ่อยว่า ทำไม Eloop ถึงดัง มีข้อดีอะไรเป็นพิเศษ  จากประสบการณ์การขาย Power bank มามากกว่า 3 ปี  นั้น Power bank ที่เป็นยี่ห้อ จากโรงงานดีๆ มีคุณภาพไม่ต่างกัน เท่าใดนัก ความคงทนก็ไม่ต่างกัน พอจะสันนิษฐานได้ว่า อาจจะเป็นเพราะ Eloop เป็นแบตสำรองเจ้าแรกๆ ที่ผลิตความจุสูงมากในราคาที่ต่ำที่สุดขณะนั้น และ อีกสาเหตุนึง เรื่องความคงทนของสินค้าในรุ่นแรกๆ นั้นดีมาก จึงทำให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา แซง yoobao ในขณะนั้น  ทำให้หลายๆรุ่นที่ตามมาของ Eloop  จึงได้รับความนิยมต่อๆกันมา
  ซึ่งล่าสุด Power bank Eloop ได้ออกรุ่นใหม่ออกมา คือ Eloop E12  รูปร่างและวัสดุทำออกมาคล้ายกับ Eloop E10  วันนี้ Caseintrendshop เลย เริ่มทำการ เปรียบเทียบ Eloop ทั้ง 2 รุ่นให้ทุกท่านได้ชมกัน

เริ่มการประชันแบบ Side by Side Eloop E12 V.S. Eloop E10

1.  เทียบกล่องด้านนอก Eloop E10  และ Eloop E12  Package ของ E10 จะเป็นพลาสติกใส  ส่วนของ E12 จะเป็นกล่องกระดาษ



2.  Power bank Eloop ทั้ง 2 รุ่นมีสายและซองแถมมาเช่นเดียวกัน



3.  โดยทั้ง 2 รุ่นมีผิวเดียวกัน ทำจากวัสดุเช่นเดียวกัน  แต่ Eloop E10 จะมีขนาดใหญ่กว่า Eloop E12 เล็กน้อย


4.  ในเรื่องของความจุ E10 มีความจุ 10,000 mAh   ส่วน Eloop E12 มีความจุ 11,000 mAh

5.  ช่องในการชาร์จไฟของ Eloop E10 มีช่องชาร์จ 1 ช่อง Output ที่ 2.1 A    ส่วน Eloop E12 มี Output 2 ช่องที่ 2.1 A และ 1 A.  ส่วนนี้ทำให้ E12 เจ๋งกว่า E10 นะคะเนี่ยะ


6.   สายชาร์จ ของ Eloop E10 เป็นแบบ สายเส้นเดียวสามารถเก็บในตัวได้เลย  (แต่มีข้อเสียที่มีขนาดสั้นกว่า) แต่สายชาร์จของ eloop E12 เป็นสายแบบยาว



7.  เรื่องของน้ำหนัก Eloop E10 มีน้ำหนักมากกว่า eloop E12 เล็กน้อย คงเนื่องมาจาก ขนาดที่ใหญ่กว่า 


บทสรุปของ Power bank ทั้ง 2 รุ่นจึงเป็นดังนี้

-    พิจารณาในเรื่องขนาด และน้ำหนักของ Powerbank ทั้ง 2 รุ่น เสมอกันเพราะขนาด และ น้ำหนักไม่ได้แตกต่างกันมาก

-    ด้านสายชาร์จ ของ E10 จะมีจุดเด่นที่สามารถเก็บสายได้ในตัวเครื่อง แต่ สาย E12 นั้นมีความยาว กว่า ทำให้สะดวกในการใช้งานกว่า
  
-    ช่องชาร์จ ของ E10 มี 1 ช่อง  แต่ช่องชาร์จของ E12 มีถึง 2 ช่อง  ในส่วนนี้ eloop จะดูโดดเด่นกว่าเล็กน้อย แต่อย่างไร ทั้ง 2 รุ่น ก็ยังมี Output ที่ 2.1 A  เท่ากันทำให้สามารถชาร์จอุปกรณ์ได้ทุกประเภท
ข้อสรุปที่เราได้ทำการเปรียบเทียบก็คือ  จุดเด่นของ eloop E10 จะพกพาดีกว่าสะดวกกว่า เนื่องจากมีสายชาร์จแบบเก็บได้ตัว   แต่ E12 มีความหลากหลายในการใช้งานมากกว่า

     รีวิว Power bank ทั้ง 2 รุ่นที่เรานำมาเทียบกันนี้ คงทำให้ลูกค้าหลายๆท่านที่กำลังตัดสินใจเลือก Power bank ทั้ง 2 รุ่นได้ประโยชน์ และข้อมูลที่ช่วยให้การตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่ท้ายที่สุดที่ลืมไม่ได้คือ Eloop มีของปลอมระบาด อย่างไรโปรดเลือกซื้อร้านที่ท่านคิดว่าไว้ใจได้ อีกทั้งการใช้งาน Powerbank ต้องเลือกร้านที่มีบริการหลังการขายที่ดี เพราะ Power bank เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการประกันหลังการขาย ขอให้ท่านโชคดีในการใช้งานค่ะ  โปรดติดตามบทความต่างๆ ของเราได้ทาง  www.caseintrend.com    ได้ตลอดค่ะ ขอบคุณมากค่ะ 

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เลือกซื้อสายชาร์จ iPhone 5 ทำอย่างไร ?

 เลือกซื้อสายชาร์จ iPhone 5 ทำอย่างไร ?



 
iPhone 5  ถือว่าเป็นรุ่นที่ Apple ทำยอดขายได้ดีที่สุด แต่นับอายุของการออกขายครั้งแรก มาถึงวันนี้ก็ 1-2 ปีเข้าไปแล้วจึงทำให้เกิดปัญหากับผู้ใช้ตามมาก็คือ หัวชาร์จ หรือสายชาร์จก็เริ่มเสื่อมไปตามอายุการใช้งาน วันนี้ Caseintrend จึงมาขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อ สายชาร์จ iPhone 5 หลักการเลือกซื้อสาย iPhone 5 นี้ ยังสามารถใช้ในการเลือกซื้อสาย iPhone 5s  iPhone 6 , iPhone 6 plus และ iPad ได้อีกด้วยเนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวใช้หัว Lightning เช่นเดียวกัน จึงสามารถนำหลัการเดียวไปใช้ด้วยกันได้


สิ่งที่ควรคำนึงในการเลือกซื้อ สายชาร์จ iPhone 5


    1. ควรพิจารณา เลือกซื้อ สายชาร์จ iPhone 5 ที่มาจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน โรงงานที่ได้มาตรฐาน ยี่ห้อ ที่มีอยู่ในท้องตลาดตอนนี้ ก็จะมี Golf , Remax , Hoco  , Baseus , Usams  โดยโรงงานพวกนี้จะมีเทคโนโลยี ชั้นสูงทำให้สินค้าที่ผลิตออกมามีคุณภาพ อีกทั้งยังเป็นผู้รับจ้างผลิตสายให้กับ Apple หรือที่เราเรียกกันว่า โรงงาน OEM อีกด้วย

     2. สายของแท้ จะต่างจากสายชาร์จ iPhone 5 ที่ขายตามตลาดนัด  สิ่งที่สังเกตุได้ง่ายก็คือ ราคา และ วัสดุที่ใช้ทำสาย

    3.  สายชาร์จ iPhone 5  ควรจะ Support IOS ได้ทุก version เนื่องจาก apple ได้ออกระบบป้องกันการใช้สายชาร์จปลอม หากสายไม่ได้คุณภาพ เวลาชาร์จจะขึ้น ว่า สายนี้ไม่ Support

    4.  สายชาร์จ iPhone 5 ควรมีความยาว 1-2 เมตร  หากยาวเกินกว่านี้ จะมีผลต่อประสิทธิภาพการชาร์จไฟ สายที่ยาว มักจะชาร์จได้ช้ากว่า สายที่สั้น
5.       หัวชาร์จของสายชาร์จ ควรมีความแข็งแรง เพราะบริเวณหัวชาร์จนี้มักจะมีปัญหาเสียได้เร็วที่สุด

    5. สายชาร์จ iPhone 5 ที่มีคุณภาพ ต้องสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้ด้วย


  
  สรุปได้ว่า หลักสำคัญที่สุดที่เราควรพิจารณาก็คือ  ให้เราคำนึงถึงสายที่ผลิตจากโรงงานมีคุณภาพ ก็จะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ทั้งหมด   ในตอนต่อไป Caseintrend จะลงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเลือกซื้อ สายชาร์จ iPhone แบบสายสั้นหรือสายยาว ดีกว่ากันอย่างไร